การจับกริ๊ป
V-shape
BF-shape
BH-shape
F-shape
การส่งกำลัง ให้ประสานกำลังจากแหล่งต่างๆ เข้าด้วยกันตามท่าการตี
ข้อมือ (สะบัดไม้) ใช้เกือบทุกกรณี
แขนท่อนบน ใช้มากในลูกดาด, แย๊บ, งัด, ตบ
ไหล่ ใช้ในลูกเซฟ กับตบ
ท้อง ใช้ในลูกเซฟ กับตบ
ขา ใช้ในลูกเซฟ กับตบ
ท่าการตี (ถนัดขวา)
Forehand
เท้าซ้ายอยู่หน้า ลำตัวตั้งฉากกับเน็ต เปิดไหล่ งอข้อศอกขวา เวลาตีให้ตีให้ลูกอยู่กลางไม้ ตำแหน่งที่ตีลูก สูง ถ้ามีเวลา ต่ำ ถ้าเวลาจำกัด
Backhand
จับไม้แบบ BF/BH shape ตำแหน่งการตีลูก เช่นเดียวกับ Forehand
หน้าไม้
ตรง
เฉียนซ้าย/ขวา
ท่าตี
เซฟ (ตรง/ทแยง/โด่ง/กระชาก)
ตัด/ฟัน/เคาะ (ตรง/ทแยง)
ตบ (เร็ว/แรง/สั้น/ยาว/ตรง/ทแยง/เข้าตัว/หนีตัว)
ดาด (ตรง/ทแยง/ดันข้ามหัว/วางเบา)
งัด (ตรง/ทแยง)
รับตบ (แบค/โฟว์/รับวาง/สวนดาด/โด่งยัน/ตรง/เปลี่ยนทาง)
หยอด (ปั่น/ตรง/เลี้ยว/ทิ้งร่ม/วางครึ่งคอร์ต)
เสิร์ฟ (แบค/โฟว์/สั้น/ยาว/เบา/แรง/ตำแหน่ง 1-6/หน้าไม้ตรง/กดลง)
ล้วงหลัง (โด่ง/ดาด)
เมื่อคู่แข่งตี ให้คาดคะเนจุดที่ลูกจะตกแล้ว เคลื่อนที่ทันทีเพื่อไปรอและจัดท่าทางในการตี
การฝึกวิ่งคอร์ตเป็นสิ่งจำเป็น จำไว้เสมอว่า เคลื่อนที่ก่อน จบการเคลื่อนที่จึงตั้งท่าตีโดยเคลื่อนที่ให้คล่อง เบา ควบคุมลำตัวให้สมดุล (จัดระเบียบร่างกาย) เร่ิมจากช้าๆ จนคล่องแล้ว จึงเพิ่มความเร็ว
การวางเท้าให้ส้นรองเท้าลงสัมผัสพื้น และไม่ให้หัวเข่าเลยปลายเท้า
ในการเคลื่อนที่ สำคัญที่สุด คือ การรักษาสมดุลของร่างกาย
ลูกหน้า
กรณีลูกลงจากตัดหรือหยอดไม้บน ให้เคลื่อนที่ให้เร็วที่สุดเพื่อไปให้ทัน
กรณีลูกหยอดห่างเน็ต สามารถคุมจังหวะเล่นช้าได้ โดยให้ผลักหรือหยอดทิ้งร่ม
ลูกหลัง
ลูกเซฟ มีเวลาให้ถอยให้เร็ว สบายๆ
ลูกเซฟกระชาก ให้ถอยให้เร็ว และกระโดดเกี่ยวทิ้งร่ม
ลูกดาด ให้เข้าหาลูกให้เร็วและพร้อมตีทันที ต้องฝึกเคลื่อนที่ให้เร็วและตีเร็ว เพื่อตีลูกนี้
Attitude ในการเล่น ทุกคะแนนสำคัญ เล่นเพื่อคะแนนเดียวพอแล้ว...
หัวใจ (ฝึกด้วยการวิ่ง ว่ายน้ำ ขึ่จักรยานหรือการเคลื่อนที่แบบแอโรบิค ระยะเวลาติดต่อกันมากกว่า 30 นาทีต่อวัน และควรมีการฝึกแบบ Interval (เร็วสลับช้า) วันเว้นวัน
กล้ามเนื้อ ควรฝึกเวทเทรนนิ่ง เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ นิ้ว ข้อมือ แขน ไหล่ ขา น่อง ท้อง สะโพกและหลัง
ระบบประสาท ฝึกปฏิกริยา ด้วยการมองและตอบสนองต่อสิ่งที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว
จิตใจ ฝึกสมาธิ เพื่อให้โฟกัสกับแผนการตี การอ่านเกม ไม่สนใจคะแนนหรือสิ่งรอบข้างหรือสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ เช่น กรรมการ หรือกองเชียร์ หรือนิสัยแยกของคู่แข่ง
เก็บข้อมูลการเล่นของคู่แข่ง ดูระหว่างที่เขาตีกับคนอื่นหรือตีเช็ค ใน 5 ลูกแรกของเกม
อ่านเกมตามข้อมูลที่เก็บได้
วางแผนการตี เป็นช๊อตหรือเป็นซีรีย์
คุมลูกเร็ว เคลื่อนที่ให้เร็ว เพื่อเล่นลูกช้า
ลาก แพ้บุกเก่ง
บุก แพ้รับเก่ง
รับ แพ้ลากเก่ง
การตีให้เหมือนการวางสนุ๊ก คือ ตีไปในตำแหน่งให้คู่แข่งมีปัญหา เช่น ไม่ถนัด ไม่ชอบ เสียหลักขาตาย ตีเบา ตีได้ไม่หลากหลาย (ทำให้อ่านทางได้ง่าย) เป็นจุดอ่อนของเขา
1. Watching Intention ตรวจจับความต้้งใจของคู่แข่ง
- ฝึกการดูการหลอกทางร่างกาย (ดูลักษณะท่าทางการตี) , หน้าไม้ (การฝึกให้อีกคนส่งสัญญาณ เช่น หลับตา กระดิกนิ้ว, ทิศทางของลูก
2. Position
- On pressure/balance --> Center
- Force to pressure --> ให้ดัก/บีบ ทำให้เสียจังหวะ/สมดุล
3. 3 Way see opponent
- Hit behind shuttle
- ลูกสูง ให้เหลียบตามาดู/ แต่ถ้าสูงมาก ก็มองคู่แข่งก่อนค่อยตี
- ลูกเลยตัว ทำให้ต้องหันไปมองลูก ต้องใช้ภาพสุดท้ายที่เห็นและวิเคราะห์ว่าเขาน่าจะเคลื่อนที่อย่างไร
4. การยืนเวลารับลูกเสิร์ฟ
- ยืนต่ำ ซ้ายนำ (60:40) ขวาตาม
- ย่อเข่านิดหน่อย เพื่อให้พร้อมพุ่งเข้าหน้า/ถอยหลัง
- จังหวะแรก กระชับเท้าคู่ 1 จังหวะ ตอนที่คู่แข่งตีลูก เพื่อให้เกิดแรงถีบ
5. การออกตัวให้เร็วเข้าหาตำแหน่งที่ลูกตก เพื่อให้มีเวลา set ท่าที่ดีในการตีได้
6. การตบ ควรตบตรงกับตบเข้ากลาง เพราะการตบทแยง เจอสวนตรง จะเป็นจุดอ่อน
7. การรับลูกตบ เวลาลูกมาตรงกลาง ให้คนที่อยู่ครอสเป็นคนรับ เพราะอีกคนควรป้องกันลูกตบตรง ซึ่งแรงกว่า... หรือหัวลูกชี้ไปที่ใคร คนนั้นรับ...